ไกล้จะถึงจุด Climax แล้วสำหรับกรณีแอบถ่ายคลิปโฟร์มด ตำรวจส่งคำให้การของลูกชายเจ้าของโรงแรมที่นักร้องสาว “โฟร์-มด” เข้าพักและถูก "แอบถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ" ไปทำแบบสอบถามเข้าเครื่องจับเท็จ พร้อมวอนมือถ่ายตัวจริงเข้ามอบตัว คาดอีกไม่ช้าความจริงปรากฏ
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส.ได้เรียกพนักงานสอบสวนในการคลี่คลายคดีผู้แอบถ่ายคลิปสองนักร้องสาวขวัญใจวัยโจ๋ “โฟร์-มด” เข้าประชุมเพื่อกำหนดทิศทางในการทำงานติดตามตัวคนร้ายที่แท้จริง หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปดส.มีหลักฐานระบุว่าผู้ที่มามอบตัวรวมไปถึงผู้ที่ถูกซัดทอดรายอื่นๆ ในขณะนี้ยังไม่ใช่ผู้กระทำความผิดที่แท้จริง โดยใช้เวลาในการประชุมข้อมูลนานกว่าสามชั่วโมง
ต่อมา พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจทราบแล้วว่านายปิยะนัส กาบละคร หรือ เนม ที่ถูกกลุ่มที่มามอบตัวซัดทอดว่าเป็นผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปนักร้องสาวรับราชการทหารเกณฑ์อยู่ที่จังหวัดนราธิวาส แต่ทราบว่าไม่ใช่ผู้ลงมือถ่ายคลิป ผู้กระทำความผิดตัวจริงเท่าที่ทราบยังลอยนวลอยู่ในจังหวัดขอนแก่น แต่การที่ทั้งหมดที่มีการซัดทอดนายเนมเนื่องจากต้องการให้ตำรวจทำงานยากขึ้นในการติดตามตัวนายเนม ตัวการที่แท้จริงได้กำหนดตุ๊กตาในเรื่องมา 5 ตัว ซึ่งยอมรับว่าตัวละครทั้งหมดที่ตั้งมาอาจมีการรู้เห็นกับการถ่ายคลิปดังกล่าว แต่ไม่ใช่ผู้ลงมือถ่าย อาจเพียงแค่เป็นผู้แอบดูเท่านั้น ซึ่งผู้ที่บงการได้วางเกมมาเป็นอย่างดีให้คนเหล่านี้เข้ามอบตัว เพราะคดีแค่ลหุโทษ อีกทั้งยังทราบว่าคดีขาดอายุความไปแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ ยิ่งโดยเฉพาะแฟนสาวของนายเนมที่เป็นคนโหลดคลิปลงคอมพิวเตอร์เป็นตัวละครที่เค้าตัดตอนบทไปเพราะเป็นตัวจักรสำคัญในคดีแต่กลับไม่มีเบาะแส
“เห็นได้ว่า คนร้ายที่มามอบตัวในครั้งนี้มีข้อน่าสงสัยหลายอย่าง โดยเฉพาะนายโด้ที่อ้างว่าเป็นพ่อครัวแต่พอมีรายการโทรทัศน์ไปถ่ายกลับเป็นเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ซึ่งตรงนี้เห็นได้ว่าเป็นการให้การที่ขัดกับหลักฐาน ถึงจะอ้างว่าโรงแรมดังกล่าวทำงานระบบครอบครัวจากตำแหน่งพ่อครัวบางครั้งต้องไปช่วยต้อนรับแขกที่มาพักด้วยตรงนี้เป็นการอ้างที่ฟังไม่ขึ้นเพราะตำแหน่งมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่คนรดน้ำต้นไม้แล้วไปช่วยทำสวนอย่างนี้ยังเป็นไปได้เพราะงานใกล้เคียงกัน ที่นายโด้กล้าสาบานในเรื่องดังกล่าวผมก็ไม่ได้บอกว่านายโด้ไม่เกียวกับคลิปนี้ นายโด้อาจจะเป็นผู้แอบดูแต่คนถ่ายคลิปไม่ใช่นายเนมตามที่กลุ่มนี้กล่าวอ้าง สื่อต่างๆ ที่ติดตามเรื่องนี้มาคงทราบว่าพวกนี้คือแพะ” ผบก.ปดส.กล่าาว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนร้ายตัวจริงทางตำรวจปดส.ทราบมาแล้วกว่า 3 สัปดาห์ จากการสอบถามวัยรุ่นในจังหวัดขอนแก่นกว่ายี่สิบราย ที่รับการส่งต่อคลิปนี้ต่อๆ กันมาก็ทราบกันดีว่าใครเป็นคนถ่ายและมีการส่งต่อคลิปนี้กันมาภายในจังหวัดกว่า14-15เดือนแล้ว แต่ทั้งหมดไม่กล้าให้การอย่างเป็นทางการ เพราะต้องยอมรับว่าผู้กระทำผิดเป็นคนมีฐานะและมีบารมีในพื้นที่หลักฐานทางเทคนิคนั้นตนเองก็ใช้โทรศัพท์โนเกีย รุ่น เอ็น 72 รุ่นเดียวกับที่อ้างว่าใช้ถ่ายคลิปตนลองเอาโทรศัพท์รุ่นนี้ไปลองถ่ายวีดีโอและลองพูดคุยกับผู้มีความรู้ทราบว่ากล้องมือถือรุ่นนี้ไม่สามารถถ่ายวีดีโอออกมาได้คมชัดเจนระดับเดียวกับในคลิปนี้แน่นอน
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวถึงเรื่องการนำ 3 คน ที่เข้ามอบยตัวเข้าเครื่องจับเท็จว่า คงจะเป็นกระบวนการต่อไป แต่อาจไม่จำเป็นที่จะต้องนำเข้าเครื่องจับเท็จก็ได้หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าคนร้ายที่แท้จริงคือใคร พวกที่มามอบตัวก็จะถูกแจ้งข้อหาให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฯ รวมไปถึงตัวการที่จ้างวานพวกนี้ให้มาให้การเท็จก็จะโดนข้อนี้เช่นเดียวกัน ส่วนนายเนมนั้นยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเรียกตัวมาสอบในตอนนี้ เพราะไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริงแน่นอน ตนมั่นใจ
“ผมขอประกาศให้คนร้ายตัวจริงทราบว่า ขอให้ออกมามอบตัวกับผมในตอนนี้จะไม่มีความผิด ผมเอาตำแหน่งเป็นประกัน หากเป็นแค่ผู้แอบถ่ายไม่ใช่เป็นผู้เผยแพร่คลิปนักร้องสาวทั้งสอง เพราะคดีขาดอายุความไปแล้วไม่สามารถเอาผิดได้ในกรณีลหุโทษมีอายุความแค่ 1 ปี ซึ่งความจริงจะได้ปรากฏ แต่ถ้าหากไม่มามอบตัวแล้วทางเจ้าหน้าที่ฯมีหลักฐานเพียงพอที่จะเรียกตัวมาสอบสวนหรือจับกุมตัวได้แล้วสอบปากคำพบว่าให้การเป็นเท็จก็จะโดนข้อหาให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่อีกด้วย ซึ่งเป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้มีโทษทั้งจำและปรับ” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้ยอมรับว่าการค้นหาหลักฐานที่เป็นวัตถุพยานนั้นเป็นไปได้ยากเนื่องจากทางผู้ต้องหาคงทำลายทิ้งหมดแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมุ่งหาหลักฐานไปที่พยานบุคคลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมของพนักงานสอบสวนในวันนี้เป็นส่วนของประเด็นสำคัญๆ 5-6ประเด็นที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ซึ่งแนวทางการสืบสวนคดีหลักๆที่จะดำเนินการต่อไป คือ ทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือประสานไปยังกองทัพเรือที่นายเนมสังกัดเป็นนาวิกโยธินประจำการอยู่ที่จังหวัดนราธิวาสเพื่อขอให้ส่งตัวมาให้ปากคำ ซึ่งหากว่านายเนมติดภารกิจอยู่ในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องลงไปสอบปากคำนายเนมเอง คาดว่าหนังสือจะสามารถส่งไปยังต้นสังกัดของนายเนมได้ในวันจันทร์ และทางพ.ต.อ.นวพล ได้ทำหนังสือถึงกองพิสูจน์หลักฐานพร้อมกับส่งวัตถุพยาน ประกอบด้วยแผ่นซีดีคลิปของสองนักร้องสาวและโทรศัพท์มือถือโนเกียรุ่น n72 พร้อมกับรายละเอียดการทำงานของกล้องมือถือรุ่นดังกล่าว คือ บันทึกวีดีโอภาพเคลื่อนไหว (Video recording) มีคุณสมบัติ คือ ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x digital zoom) ขนาดวีดีโอ CIF (352 x 288 พิกเซล), 15 เฟรมต่อวินาที บันทึกวีดีโอไม่จำกัด (Video capture time) รองรับไฟล์วิดีโอ : AMR-NB, AMR-WB, AAC, RealAudio, RealVideo, H.263, MPEG-4 แนบไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังได้ส่งสำนวนการสอบปากคำของผู้ที่มาให้การทั้ง 4 ปาก ซึ่งรวมถึงบุตรชายเจ้าของโรงแรมด้วย เพื่อส่งให้ผู้ชำนาญการด้านเครื่องจับเท็จทำชุดคำถามสำหรับเพื่อใช้ในการสอบปากคำเมื่อส่งตัวเข้าเครื่องจับ ซึ่งยังกำหนดระยะเวลาแน่ชัดไม่ได้ ขึ้นอยู่กับทางผู้ชำนาญการจะพร้อมเมื่อใดก็จะประสานตัวทั้ง 4 มาให้ปากคำในเครื่องจับเท็จอีกครั้ง และทางพนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำสองนักร้องสาวอีกหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้นำหนังสือไปขอสอบปากคำสองนักร้องสาวแล้วแต่ทางต้นสังกัดของทั้งคู่อ้างว่ายังไม่สะดวกเนื่องจากติดภารกิจ ในส่วนของผู้ต้องหาที่เคยมาให้ปากคำแล้วนั้นขณะนี้พบว่ายังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์และต้องสอบปากคำเพิ่มเติมแต่เมื่อติดต่อไปปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อทั้งหมดได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ถือว่าเป็นผลดีกับการสอบสวนหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงเนื่องจากเพราะหากทั้งหมดไม่ใช่ผู้กระทำความความผิดแท้จริงยิ่งเวลานานไปจะส่งผลให้ทั้งหมดไม่สามารถจนจำคำให้การที่เคยให้ไว้ได้หากว่าเป็นการเตรียมบทมา
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ขณะนี้ พลทหารปิยะนัส หรือ เนม ถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำเบื้องต้น ยังฐานปฏิบัติการทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อให้พลหทารปิยะนัส ได้ชี้แจงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสังเกตการณ์ ว่า สรุปแล้วพลหทารปิยะนัสกระทำผิดจริงหรือไม่อย่างไร และจะสามารถชี้ชัดได้ว่า 3 ผู้ต้องสงสัยที่เข้ามอบตัวกับประธานมูลนิธิปวีณาฯ มีการจัดฉากหลอกลวงต่อสาธารณชนดั่งที่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.ระบุหรือไม่